Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

อนาคตของการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ผ่านระบบ AI Agent

ถ้าพวกเราเคยคิดว่า “หุ่นยนต์” หรือ “ระบบอัตโนมัติ” เป็นเรื่องไกลตัว หรือเข้าใจยาก ลองคิดใหม่!

เพราะวันนี้ UiPath RPA platform บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอัตโนมัติ

กำลังพาเราเข้าสู่ยุคใหม่ที่การทำงานอัตโนมัติไม่ใช่แค่เรื่องของหุ่นยนต์ แต่เป็นระบบที่ “คิดเป็น” และ “ทำเป็น” ได้ด้วยตัวเอง มาเข้าใจกันแบบง่ายๆ ว่ามันคืออะไร และจะเปลี่ยนการทำงานของเราได้อย่างไร พร้อมไปกับที่แอดมินไปสรุปประเด็นสำคัญจาก research มาย่อยให้ฟังครับ

ประเด็นสำคัญจากรายงาน (UiPath Agentic AI reprt 2025 โดยคุณโธมัสและคุณเอียน 
– การเตรียมความพร้อมก่อนการมาถึงยุคแห่ง AI Agent)

ผลสำรวจ

  • 74% ขององค์กรเชื่อว่า Agentic AI จะช่วยลดเวลาการทำงานซ้ำๆ ได้มากกว่า 50%
  • 68% คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน และลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดของมนุษย์
  • 81% ของผู้บริหารเห็นว่า Agentic AI จะเป็นตัวเร่งสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กร

ความท้าทาย

  • ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (45% ขององค์กร)
  • การปรับกระบวนการทำงานเดิมให้สอดคล้องกับ AI (37%)
  • การฝึกอบรมพนักงาน ให้ใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ (29%)

แนวโน้มในอนาคต

  • UiPath คาดว่า ภายในปี 2026 องค์กรกว่า 60% จะใช้ Agentic AI เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานหลัก
  • เทคโนโลยีนี้จะถูกผนวกเข้ากับเครื่องมืออัตโนมัติที่มีอยู่ เช่น RPA (Robotic Process Automation) เพื่อสร้างระบบที่ทั้ง “คิดเป็น” และ “ทำเป็น”

คราวนี้เรามาดูเมื่อเกิดการผนวก ระบบที่ “คิดเป็น” และ “ทำเป็น” เข้าไว้ด้วยกัน จะเกิดอะไรขึ้น พร้อมตัวอย่าง และเครื่องมือต่างๆ ที่พวกเรา Automat Consulting ไปลองไปเล่น และพร้อมนำเสนอมีอะไรกันบ้าง

1. ระบบอัตโนมัติแบบเดิม vs ระบบอัตโนมัติแบบใหม่

  • ระบบอัตโนมัติแบบเดิม: เป็นเหมือนโปรแกรมซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ที่ทำตามคำสั่งที่เราตั้งไว้ เช่น คัดลอกข้อมูลจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หรือกรอกแบบฟอร์มซ้ำๆ โดยที่มันไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เอง
  • ระบบอัตโนมัติแบบใหม่: ระบบนี้จะฉลาดขึ้น มันสามารถ “คิด” และ “ตัดสินใจ” ได้ด้วยตัวเอง เช่น ถ้ามีข้อมูลผิดปกติ มันจะแจ้งเรา หรือแก้ไขได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่ง

2. Agentic Automation: ระบบที่คิดเป็น

ลองนึกภาพระบบอัตโนมัติที่เหมือนมีสมองของตัวเอง มันสามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่ได้รับ และปรับปรุงตัวเองให้ทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องให้มนุษย์คอยควบคุมตลอดเวลา
ตัวอย่างเช่น:

  • ถ้ามีอีเมลเข้ามา ระบบสามารถอ่านและตัดสินใจได้ว่าเป็นเรื่องด่วนหรือไม่ ถ้าด่วนก็ส่งต่อให้คนที่เกี่ยวข้องทันที
  • ถ้ามีข้อมูลผิดปกติในระบบ ระบบสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้เองโดยไม่ต้องรอให้มนุษย์เข้ามาดูแล
  • ในกระบวนการ ที่ระบบเข้าใจ จะทำเองให้จบ หรือส่งต่อให้มนุษย์ตัดสินใจอีกที ได้หมด

3. Robotic Automation: ระบบที่ทำเป็น

ส่วนนี้คือระบบที่ทำงานซ้ำๆ ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เช่น:

  • กรอกข้อมูลลงในระบบทีละหลายร้อยรายการ
  • คัดลอกข้อมูลจากเอกสารหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
  • จัดเรียงข้อมูลใน Excel โดยไม่ผิดพลาด

ระบบนี้ช่วยลดเวลาการทำงานและลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากมนุษย์ได้อย่างมาก

4. อนาคตคือการรวมกันของ Agentic และ Robotic

UiPath กำลังพัฒนาระบบที่ผสานความสามารถของทั้งสองรูปแบบเข้าด้วยกัน นั่นคือระบบที่ทั้ง “คิดเป็น” และ “ทำเป็น” ในเวลาเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น:

  • ระบบสามารถอ่านอีเมลที่ลูกค้าส่งมา เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วจัดการคำขอนั้นได้เองโดยอัตโนมัติ
  • ระบบสามารถตรวจสอบข้อมูลในระบบบัญชี และแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้มนุษย์เข้ามาดูแล

5. ประโยชน์ที่ทุกคนจะได้รับ และอนาคตที่ทุกคนเข้าถึงได้

  • ทำงานเร็วขึ้น: ระบบอัตโนมัติช่วยลดเวลาการทำงานซ้ำๆ ทำให้เรามีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่า
  • แม่นยำมากขึ้น: ระบบอัตโนมัติทำผิดพลาดน้อยกว่ามนุษย์ โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความละเอียด
  • ลดต้นทุน: เมื่อระบบทำงานแทนมนุษย์ได้ บริษัทก็สามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างคนทำงานซ้ำๆ ได้
  • สร้างได้ด้วยตัวพวกเราเอง : ง่ายและทำได้ด้วยผู้ใช้งานเอง พัฒนาให้เก่งขึ้นด้วยเครื่องมือที่เข้าถึง ใช้ง่าย

UiPath Platform กำลังพาเราเข้าสู่ยุคใหม่ที่ระบบอัตโนมัติไม่ใช่แค่เครื่องมือทำงาน แต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ช่วยคิดและช่วยทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักบัญชี นักการตลาด หรือแม้แต่คนทั่วไปที่อยากทำงานให้ง่ายขึ้น ระบบอัตโนมัติแบบใหม่นี้จะช่วยให้ชีวิตการทำงานของคุณดีขึ้นแน่นอน คราวนี้มาดูตัวอย่างที่ระบบได้เตรียมเริ่มต้นไว้ให้ มีอะไรกันบ้าง

1. UiPath Autopilot: เครื่องมือไว้ติดต่อกับ ai (จาก UiPath)

เคยไหม? อยากให้คอมพิวเตอร์ทำงานแทน แต่ไม่รู้จะเขียนโปรแกรมยังไง… UiPath Autopilot คือคำตอบ! โดยระบบจะให้เราใช้ผ่านทางการสั่งให้ Agent ไปทำงานให้ และหากเป็นคำสั่งใหม่ๆ เราสามารถเลือก หรือสร้าง Agent ใหม่ได้ด้วยผ่าน UiPath Agent Builder (ซึ่งแอดมิน จะเขียนแชร์ต่อในตอนหน้าๆ)

  • Autopilot คืออะไร: คิดซะว่าเป็นระบบอัตโนมัติที่คุณสั่งงานเป็นภาษาพูดหรือข้อความได้เลย เช่น บอกว่า “จัดเรียงข้อมูลใน Excel ให้หน่อย” หรือ “ส่งอีเมลแจ้งลูกค้าเมื่อมีสินค้ามาในสต็อก” ระบบจะแปลงคำพูดของคุณเป็นกระบวนการทำงานอัตโนมัติทันที
  • ตัวอย่างการใช้งาน:
    • คุณบอก Autopilot ว่า “สร้างรายงานสรุปยอดขายรายสัปดาห์” ระบบจะดึงข้อมูลจาก Excel มาแปลงเป็นกราฟสวยๆ ให้เอง
    • ลูกค้าถามคำถามทางแชท Autopilot จะค้นหาคำตอบจากข้อมูลบริษัทและตอบกลับอัตโนมัติ

2. Context Grounding: ระบบที่ “เข้าใจบริบท” เหมือนมนุษย์เราๆนี่เลย

ทำไมบางครั้งหุ่นยนต์ตอบคำถามแปลกๆ? เพราะมันไม่เข้าใจ “ความหมาย” ของสิ่งที่คุณถาม! UiPath เลยเสริมฟีเจอร์ Context Grounding ให้ระบบเข้าใจบริบทงานแบบเจาะลึก

  • Context Grounding คืออะไร: ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูลแวดล้อม เช่น ประวัติลูกค้า ข้อมูลบริษัท หรือเอกสารอ้างอิง เพื่อตอบคำถามหรือตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น
  • ตัวอย่างการใช้งาน:
    • เมื่อลูกค้าถามว่า “สถานะการส่งของฉันเป็นยังไง?” ระบบจะดึงข้อมูลการจัดส่งจากอีเมลและฐานข้อมูลมาแสดงผลได้ทันที
    • ถ้ามีเอกสารกฎหมายเข้ามา ระบบจะอ่านและสรุปประเด็นสำคัญโดยอ้างอิงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

3. Intelligent Document Processing (IDP): ระบบอ่านเอกสารอัจฉริยะ

เคยปวดหัวกับเอกสารเป็นร้อยหน้าไหม? IDP คือผู้ช่วยอ่านเอกสารที่ทำงานแทนคุณได้ในคลิกเดียว!

  • IDP คืออะไร: ระบบ AI ที่สแกน อ่าน และประมวลผลเอกสารทุกประเภท (PDF, ใบแจ้งหนี้, สัญญา) แบบอัตโนมัติ แม้แต่ลายมือเขียนก็อ่านได้
  • ตัวอย่างการใช้งาน:
    • ส่งใบแจ้งหนี้เข้าไปในระบบ IDP จะดึงข้อมูลเช่น วันที่, จำนวนเงิน, เลขที่ invoice ออกมาเก็บใน Excel ให้เอง
    • กรอกแบบฟอร์มใบลาโดยการถ่ายรูป ส่งให้ IDP ระบบจะแปลงภาพเป็นข้อมูลดิจิทัลพร้อมจัดเก็บให้เองเลย