🌐 ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านของธุรกิจ หนึ่งในรูปแบบของ AI ที่กำลังได้รับความสนใจคือ AI เชิงปฏิบัติการ หรือที่เรียกว่า “Agentic AI”
🤔 **AI เชิงปฏิบัติการคืออะไร?**
AI เชิงปฏิบัติการคือ AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถตัดสินใจและปฏิบัติการได้เองในบางกรณี ซึ่งต่างจาก AI ทั่วไปที่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์ การทำงานของ AI เชิงปฏิบัติการจึงเน้นที่ความสามารถในการเข้าใจสถานการณ์ ปรับตัว และดำเนินการโดยอัตโนมัติ ⚙️ เพื่อลดความซับซ้อนและทำให้กระบวนการต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
📊 **กรณีศึกษาจาก UiPath: การใช้ AI เชิงปฏิบัติการ**
UiPath เป็นผู้นำในการให้บริการระบบอัตโนมัติสำหรับองค์กร โดยมีการใช้ AI เชิงปฏิบัติการเพื่อยกระดับการดำเนินงานและเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจ 🚀 ตัวอย่างหนึ่งของการใช้งานคือการใช้ AI ในการประมวลผลและจัดการเอกสารจำนวนมาก
1. การใช้ AI ในการจัดการคำร้องขอของลูกค้า โดยสามารถตอบกลับคำถามพื้นฐาน FAQ ต่างๆ และส่งต่อคำร้องที่ซับซ้อนให้กับผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสม โดย ai อ่าน เข้าใจบริบท ตอบได้ก็ตอบเอง หาก % ที่เข้าใจไม่มากพอ ก็ฉลาดพอที่จะ root ไปในระบบ Queue ของ CRM systems ต่างๆ เพื่อส่งต่อได้
2. การใช้ AI ในการตรวจสอบและอนุมัติใบเสร็จและใบกำกับภาษี ทำให้การทำงานทางการเงินมีความรวดเร็วและลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ เช่นธุรกิจนี้เป็น invoice ที่มี PO กำกับอยู่ ให้วิ่งระบบไปค้นหาความถูกต้องในระบบ SAP, Oracle ERP เป็นต้น
3. การใช้ AI ในการจัดการทรัพยากรบุคคล เช่น การประมวลผลข้อมูลการเข้างาน และการประเมินผลการทำงาน ดึงข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง ai ช่วยประเมินผล และโต้ตอบกับระบบ HRM, HRD และทำรายงานสรุป เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร
🌟 **ประโยชน์ที่ได้รับจาก AI เชิงปฏิบัติการ**
การนำ AI เชิงปฏิบัติการมาใช้ร่วมกับระบบ UiPath ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดเวลาที่ใช้ในการจัดการเอกสาร 📄 การเพิ่มความถูกต้องในการตัดสินใจ 💡 หรือการลดต้นทุนในการปฏิบัติงาน
นอกจากนี้ AI เชิงปฏิบัติการยังช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับกระบวนการทางธุรกิจ สามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที
AI เชิงปฏิบัติการเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง 👀 เนื่องจากมีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในกระบวนการทางธุรกิจ กรณีศึกษาจาก UiPath แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประมวลผลและตัดสินใจของ AI 💡 ซึ่งสามารถช่วยให้ธุรกิจลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ ✅ และสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
📢 หากองค์กรของคุณกำลังมองหาแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการต่างๆ การนำ AI เชิงปฏิบัติการมาใช้อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่ควรพิจารณา ติดต่อเข้ามาที่ Automat 📱 เราจะช่วยทำ use case และประเมินความเป็นไปได้ จัดทำงบประมาณ และช่วย implement ให้ได้ สำหรับการวางแผนในปี 2025 🌐
3.รายละเอียด แยกตาม module ใหม่ๆของ UiPath ในยุคต่อไป ที่เป็นการดึงเอาศักยภาพของ ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีส่วนและแบ่งแยก AI ออกเป็นสองส่วนคือ Specialized AI และ GenAI
4.แผนการออกบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การสนับสนุน (Platform Road Map) และการมองอนาคตของการเอา automation & ai มาใช้อย่างเห็นผล
ในเนื้อหาตอนแรกนี้ แอดมินของเล่าจากการฟังอย่างรวดเร็ว (เขียน blog นี้โดยฟังและจับเอาจากการนั่งฟัง live และจดสรุปใจความสำคัญออกมาได้ดังนี้ (key note session)
เปิดตัว UiPath AutoPilot ที่มีความเก่งในแต่ละด้านอาทิ สร้าง process flow program ได้ด้วย prompt หรือแม้กระทั่งสร้าง UiPath App (low-code) ด้วยการส่ง PDF ภาพตัวอย่างที่เราออกแบบมาคร่าวๆได้เลย ยังมีรายละเอียดที่จะเขียนต่อไปในบทความตอน div deep ต่อไปครับ
AI เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องจักรเรียนรู้จากข้อมูล ตรวจสอบรูปแบบ และตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลนั้น สามารถนำไปใช้ในการผลิต เช่นการตรวจจับข้อบกพร่อง “ทำนาย” การเสื่อมสภาพของเครื่องจักร และการปรับปรุงกระบวนการผลิตโดยการปรับการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการทำ process mining และการใช้ AI ในการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต คิดและแนะนำผ่าน data analytic ที่สร้างอย่างรวดเร็วได้จาก Generative AI ช่วยให้กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมคุณภาพ การจัดการสินค้าคงคลัง และการวางแผนการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เร็วและผิดพลาดน้อยได้อีกด้วย
Process
Task
Automation
Production tracking
Measure, analyze and improve visibility throughout the manufacturing process
Use intelligent automation to develop a near real-time overview of progress on orders and the ongoing need for components or raw materials2
Invoice processing
Extract data from invoices, compare with purchase orders, check for duplicates, update records in ERP system
Use RPA bots with OCR to automate the entire invoice processing cycle
เป็นต้นโดยเรียกคุณลักษณะเหล่านี้ว่าเกณฑ์การพิจารณา ส่วนผลลัพธ์ของการทำงานส่วนนี้จะเป็น Process List ที่ผู้ใช้งานหรือสมาชิกโครงการระดมความคิดออกมาว่า กระบวนการทำงานไหนบ้างที่สมควรถูกเลือกขึ้นมาศึกษาในเชิงลึกว่ามีความเหมาะสม คุ้มค่ากับการพัฒนาให้เป็นระบบทำงานอัตโนมัติบ้าง
ในการทำ workshop ของขั้นตอน Process Discovery เราอาจใช้วิธีแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานออกเป็นกลุ่มต่างๆ ที่ค่อนข้างมีความเข้าใจการทำงานในปัจจุบันของแต่ละคน และเลือก process ที่เห็นร่วมกันออกมาชุดหนึ่งเพื่อหารือกันในที่ประชุมรวม
ผู้ใช้งานจะต้องพยายามคิดว่างานของตนยังมีสิ่งใดที่เป็นปัญหาหรือสามารถทำให้ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ หากไม่แน่ใจก็สามารถซักถามเพื่อนร่วมกลุ่มหรือวิทยากรที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษา เพื่อที่ว่าสุดท้ายกลุ่มของตนจะสามารถได้ Process List ที่มั่นใจได้ว่าสามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของเราให้ดีขึ้นได้
อย่างไรก็ตามแม้การทำ workshop ในขั้นตอน Process Discovery นี้จะดูมีขั้นมีตอน มีเกณฑ์การคัดเลือก Process List ที่ค่อนข้างชัดเจนและสามารถคำนวนเป็นตัววัดเชิงปริมาณอย่างคะแนนที่จะช่วยให้เราจัดกลุ่ม process เหล่านี้ได้ เรายังมีข้อสังเกตบางประการจากการสังเกตกิจกรรมที่เกิดขึ้นใน workshop ซึ่งอาจทำให้เราไม่ได้ Process List ที่ดีที่สุดสำหรับการวางแผนโครงการ RPA ในระยะถัดไป คือ
การขาดบุคคลากรที่มีความเข้าใจจริงในกระบวนการทำงานที่กำลังประเมินอยู่ ในกรณีที่ผู้ใช้งานที่ลงมือทำเองหรือมีความเข้าใจในขั้นตอนและปัญหาการทำงานจริงๆไม่ได้อยู่ร่วมใน workshop ซึ่งทำให้ Process List ที่ทำออกมาไม่ได้แสดงถึงกลุ่มงานที่เหมาะสมที่สุดที่จะพัฒนาให้เป็นระบบ RPA
การขาดข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการตัดสินกระบวนการทำงานที่กำลังประเมินอยู่ เวลาเราพูดถึงประโยชน์ที่คาดหวังจากการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหรือความซับซ้อนของการทำงานที่เรากำลังเผชิญอยู่ เราควรมีวิธีที่จะเก็บค่าสถิติของการทำงานนี้ให้ได้อย่างครบถ้วนและใกล้เคียงความจริงให้ได้มากที่สุด เช่น ขั้นตอนและเงื่อนไขการทำงานที่เราทำอยู่ เวลาที่ใช้อยู่ เวลาที่คาดการณ์ว่าจะลดลงเมื่อมีระบบ RPA มาใช้เป็นต้น ถ้าสมมุติฐานหรือค่าสถิติเหล่านี้คลาดเคลื่อนจากความจริงไปมาก เราจะได้ Process List ที่ไม่เหมาะสมและจะส่งผลต่อความสำเร็จและการยอมรับของโครงการ RPA
การได้ Process List จากการทำ workshop เป็นเพียงผลลัพท์แรกเท่านั้น process ต่างๆที่คิดได้ยังต้องผ่านการพิจารณาในรายละเอียดและจัดทำเป็น business case ที่มีข้อมูลสนับสนุนในเชิง costs & benefits ที่เพียงพออีก เพื่อให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจอนุมัติและรวบรวมเข้าไปในแผนการพัฒนาโครงการต่อไป
ก่อนจบบทความนี้ ขอเล่าถึงการต่อเชื่อมกันของ ChatGPT กับ RPA ซึ่ง Automat เราได้ทดลองทำขึ้นมา โดยเป็นการเชื่อมต่อ ChatGPT กับ UiPath RPA ผ่าน Postman development platform ตาม link ด้านล่างนี้
ในตัวอย่างจะเป็นการจำลองการสร้าง personalized sales proposal จาก keywords ที่พนักงานขายเตรียมไว้ใน MS Excel แล้วให้ RPA robot หยิบไปใส่ใน ChatGPT จากนั้นก็นำผลลัพท์ที่เราสั่งให้ ChatGPT เขียนเป็นข้อความมาสร้างเป็น sales proposalใน MS Word และแนบในอีเมลส่งถึงลูกค้าเป้าหมาย
ในฐานะที่ Automat เราได้ศึกษาและให้บริการโครงการพัฒนาระบบงาน RPA มาตั้งแต่ช่วงแรกของการเริ่มใช้งานRPA อย่างแพร่หลายในประเทศไทย เรามองว่าเรื่องนี้เป็นพัฒนาการที่น่าตื่นเต้นที่ได้เห็นการการเชื่อมต่อของ RPA กับ AI model แล้วสร้างประโยชน์หรือ Use Cases ของการใช้งานได้ทันที ซึ่งในอนาคตก็น่าจะมี AI model อย่างอื่นนอกจากเรื่องภาษาที่สามารถนำมาเชื่อมกับ RPA แล้วก่อให้เกิดเป็นระบบงานที่สร้างประโยชน์อีกมากมายต่อการทำงานของเรา