กับข่าวคราวการเปิดตัว GPT-4 ไปนับว่ายิ่งเพิ่มพูนกับการถูกพูดถึงของ ai Generative AI มากยิ่งขึ้นไปอีก ความสามารถ ความรวดเร็วถูกต้องยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก คงไม่ได้เป็นเพียงกระแสที่มาแล้วผ่านไปอีกแล้ว บทความวันนี้จึงขอมาแบ่งปันถึง “การควบรวม” ของสองเทค (ai+RPA) ที่อีกไม่นานจะรวมร่างและกลายเป็น Digital Assistant ประโยชน์ของมันที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระงานของworker อย่างพวกเรา มาอ่านกันครับ
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 บริษัทวิจัย OpenAI ได้เปิดตัว AI Chatbot ที่ชื่อ ChatGPT ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกและก็สร้างปรากฎการณ์เกิดเป็นกระแสขึ้นมาทันทีให้คนพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง
ถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ทั้งๆที่เทคโนโลยี AI หรือ Artificial Intelligence อยู่ในการรับรู้ของสังคมมาแล้วเป็นเวลานับสิบๆปี ซึ่งคำตอบน่าจะเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยี AI ได้เข้าสู่การใช้งานในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง (mass adoption) มีการใช้งานที่ง่าย เกิดประโยชน์ต่อคนทั่วไปทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นยอดคนลงทะเบียนเข้าใช้งานพุ่งถึง 100 ล้านคนภายในแค่ 2-3 เดือนหลังจากการเปิดตัว
ในขณะที่ส่วนของซอฟต์แวร์ RPA เองก็มีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งขององค์กรที่เพิ่งเริ่มใช้และองค์กรที่ใช้มานานแล้ว จนเรียกได้ว่าสำหรับหลายองคกรนั้น มีการใช้งาน RPA robot ในลักษณะ digital assistant คือเป็นพนักงานดิจิตัลที่ทำงานกลมกลืนกับพนักงานทั่วไปในแต่ละแผนก
ดังนั้นความสนใจของเราในบทความนี้ จึงอยู่ที่ว่าเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือการทำงานขององค์กรทั้งสองตัวนี้ ถ้ามาเชื่อมต่อทำงานร่วมกัน จะเกิดเป็นภาพอย่างไร และจะเกิดประโยชน์ในด้านใดได้บ้าง
ทีม Automat เราจึงรวบรวม Use Cases ของการทำงานร่วมกันของ ChatGPT กับ RPA มาเล่าให้ท่านผู้อ่านฟัง รวมทั้งการที่เราได้ทดลองสร้างกระบวนการที่เชื่อมต่อสองเทคโนโลยีนี้ ซึ่งจะไปกล่าวถึงในช่วงท้ายของบทความ
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งของ Use Cases ที่สามารถเกิดประโยชน์ต่อการทำงานของเราในแต่ละฟังชั่นงานมีดังต่อไปนี้
- การนำ ChatGPT เข้ามาช่วยนักพัฒนาในโครงการพัฒนาโปรแกรม
นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จาก ChatGPT ได้โดยตรงเช่น การใส่ code ที่เขียนโดยนักพัฒนาคนอื่นแล้วให้ ChatGPT อธิบายการทำงานของ code นั้นๆซึ่งอาจเขียนขึ้นเพื่อสร้างฟังชั่นการทำงานต่างๆของ RPA ทำให้ประหยัดเวลาของนักพัฒนาลงได้มากหากต้องไปแกะเอาเอง หรือนักพัฒนาอาจสามารถใช้ ChatGPT ในการจัดทำ เอกสารโครงการ เช่น process design document, technical design document, operation guide เป็นต้น โดยการใส่ข้อมูลของระบบที่พัฒนาเข้าไปแล้วให้ ChatGPT เขียนข้อความและแนะนำประเด็นที่ผู้ใช้งานควรรับทราบ ถึงแม้นักพัฒนายังต้องเข้าไปตรวจทานงานของ ChatGPT ก่อนการใช้งานจริงอยู่ดีเนื่องจาก ChatGPT เองยังต้องการเวลาที่จะเรียนรู้พัฒนาตัวเองอีกมาก แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าการนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้ น่าจะช่วยลดเวลาลงได้พอสมควร
- การวิเคราะห์ความคิดเห็นหรือข้อติชมของลูกค้าด้วย ChatGPT
ความสามารถด้านการวิเคราะห์ภาษาหรือรูปประโยคที่เป็นการสื่อสารแบบธรรมชาติถือเป็นจุดเด่นของ ChatGPT เราสามารถใช้ความสามารถนี้กับการวิเคราะห์ความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราได้ เราสามารถวิเคราะห์ความคิดเห็นที่เป็น comment หรือ review ของลูกค้าโดยส่งผ่านข้อความเหล่านั้นให้ ChatGPT ก่อนจากนั้นเราก็ป้อนคำสั่งให้ระบบทำการคัดแยกจัดกลุ่มความคิดเห็นในเชิง sentiment ว่าความเห็นไหนเป็น positive หรือเป็นความเห็นที่ลูกค้ามีความชอบหรือความรู้สึกที่ดีกับผลิตภัณฑ์บริการของเรา ความเห็นไหนเป็น negative หรือความเห็นไหนไม่สามารถระบุความชอบได้
เราสามารถนำ RPA เข้ามาสร้างเป็นกระบวนการที่ทำงานต่อเนื่องจากผลลัพท์ของ ChatGPT ได้ เช่นความเห็นไหนที่เป็นระบบวิเคราะห์ว่าเป็น negative จะถูกส่งให้ทีมดูแลลูกค้าเพื่อแก้ปัญหาหรือส่งเป็นข้อมูลให้ทีมผลิตภัณฑ์ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงต่อไป
- การใช้ ChatGPT and RPA สำหรับงานบริหารทรัพยากรบุคคล
ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลสามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมระหว่าง ChatGPT และ RPA ได้เหมือนกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการให้ ChatGPT เขียนประโยคหรือข้อความในเอกสารองค์กรเพื่อสื่อสารกับพนักงาน ผู้บริหาร หรือผู้มาสมัครงานที่กำลังสนใจร่วมงานกับเรา โดยเจ้าหน้าที่ HR จะเป็นผู้กำหนดข้อมูลที่จะใช้เป็น input ของ ChatGPT สำหรับการสร้างเนื้อหาที่ใช้สื่อสารกับแต่ละกลุ่มบุคคล
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ การทำ pre-screening ข้อมูลของผู้สมัครงาน เช่น resume, job description, etc. แล้วให้ ChatGPT สร้าง matching score เพื่อดูความเหมาะสมของตำแหน่งงานกับคุณสมบัติและประสบการณ์ของผู้สมัครแต่ละราย เป็นต้น
- การใช้ ChatGPT สร้างเนื้อหาของฝ่ายการตลาด
องค์กรหรือหน่วยงานด้านการตลาดสามารถให้ ChatGPT ช่วยเขียน content ต่างๆด้านการตลาดได้ ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้ว งานผลิต content มักเป็นงานที่ใช้เวลาและความคิดสร้างสรรค์มากเพื่อที่จะให้ได้ content ที่มีคุณภาพดีและสามารถสื่อสารได้ตามวัตถุประสงค์ นักการตลาดสามารถให้ ChatGPT สร้าง content บางส่วนหรือทั้งหมดของการทำ brochure การเขียนข้อความโฆษณา การจัดทำ VDO script รวมทั้งงานที่ต้องทำผ่านโซเชียลมีเดียอย่าง blog, online article เป็นต้นซึ่งถ้ามีปริมาณมากหรือมีเวลาจำกัดในการผลิต ก็สามารถนำ RPA เข้ามาช่วยได้เช่นกัน
- ChatGPT กับงานด้านการขาย
งานขายเป็นงานที่มีการปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าซึ่งเราสามารถนำจุดเด่นด้านภาษาของ ChatGPT เข้ามาช่วยงานเราได้ เช่น เมื่อได้ข้อมูล input ที่เป็นข้อมูลของลูกค้า เช่นข้อมูล demographic ข้อมูลความสนใจ ประวัติการซื้อหรือประวัติการใช้งาน เป็นต้นแล้ว เราสามารถให้ ChatGPT ทำการ
- สร้าง call script ให้ทีม customer service หรือ telemarketing ใช้ในการติดต่อกับลูกค้าแต่ละราย
- เขียน proposal ที่ดึงดูดและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
- เขียน sales report เพื่ออธิบายสรุปเรื่องต่างๆของการขายและการติดต่อกับลูกค้าไว้
นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันของ ChatGPT กับ RPA ยังทำให้งานที่ต้องมีความ personalized ใน scale ใหญ่ เช่น การตอบอีเมลลูกค้าหรือคู๋ค้าจำนวนมาก การสร้าง call script แล้วบันทึกในระบบ CRM ของลูกค้าแต่ละราย เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ตกหล่น
จากตัวอย่างที่เราได้กล่าวถึงข้างต้น เราค่อนข้างมั่นใจว่าจะมี Use Cases เหล่านี้เกิดขึ้นอีกมากเมื่อ ChatGPT มีการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้น และสามารถเชื่อมต่อกับ RPA เพื่อให้ได้เป็นระบบงาน automation ที่สร้างคุณค่าต่อองค์กรได้มากกว่าการจัดการกับงานซ้ำๆและมีจำนวนมาก
ก่อนจบบทความนี้ ขอเล่าถึงการต่อเชื่อมกันของ ChatGPT กับ RPA ซึ่ง Automat เราได้ทดลองทำขึ้นมา โดยเป็นการเชื่อมต่อ ChatGPT กับ UiPath RPA ผ่าน Postman development platform ตาม link ด้านล่างนี้
ในตัวอย่างจะเป็นการจำลองการสร้าง personalized sales proposal จาก keywords ที่พนักงานขายเตรียมไว้ใน MS Excel แล้วให้ RPA robot หยิบไปใส่ใน ChatGPT จากนั้นก็นำผลลัพท์ที่เราสั่งให้ ChatGPT เขียนเป็นข้อความมาสร้างเป็น sales proposalใน MS Word และแนบในอีเมลส่งถึงลูกค้าเป้าหมาย
ในฐานะที่ Automat เราได้ศึกษาและให้บริการโครงการพัฒนาระบบงาน RPA มาตั้งแต่ช่วงแรกของการเริ่มใช้งานRPA อย่างแพร่หลายในประเทศไทย เรามองว่าเรื่องนี้เป็นพัฒนาการที่น่าตื่นเต้นที่ได้เห็นการการเชื่อมต่อของ RPA กับ AI model แล้วสร้างประโยชน์หรือ Use Cases ของการใช้งานได้ทันที ซึ่งในอนาคตก็น่าจะมี AI model อย่างอื่นนอกจากเรื่องภาษาที่สามารถนำมาเชื่อมกับ RPA แล้วก่อให้เกิดเป็นระบบงานที่สร้างประโยชน์อีกมากมายต่อการทำงานของเรา
Credit:
- UiPath Inc.
- Evolvous.com
- Forbes.com